เชื่อว่าสาว ๆ ส่วนใหญ่ล้วนมีปัญหาในเรื่องริ้วรอยที่เกิดจากสิวที่มาคอยสร้างความกังวลใจ และลดความมั่นใจให้กับสาว ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของหลุมสิว ที่แม้แต่การแต่งหน้า โบกรองพื้น ใช้เครื่องสำอางอย่างหนา ก็ไม่สามารถปกปิดปัญหาผิวหน้าเหล่านี้ได้อย่างมิดชิดสำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้ วันนี้เรามีทางออกและข้อแนะนำให้กับคุณ เพื่อให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบได้ดังเดิม โดยวิธีที่เรานำมาแนะนำกันนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการลดรอยหลุมสิว รวมถึงการช่วยลดเลือนรอยดำต่าง ๆ นั่นก็คือ การกระตุ้นคอลลาเจนนั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะไปรู้จักกับวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนดังกล่าว เราขอพาคุณไปรู้จักกับปัญหาของรอยสิวแต่ละประเภทกันก่อน เพื่อจะได้มีความเข้าใจในการแก้ปัญหาผิวได้อย่างถูกต้อง



แล้วรอยหลุมสิวที่ฉันเป็น รุนแรงแค่ไหน
ความรุนแรงของรอยสิวซึ่งเป็นปัญหาที่แก้ไขยากที่สุด อย่างที่บอกไปก็คือเรื่องของหลุมสิว โดยหลุมสิวที่รักษายากที่สุดก็คือ หลุมสิวลึก ปากแคบ ที่เรียกว่า Ice pick scar เป็นปัญหาผิวที่รักษาได้ยาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางที่ลึกต้องใช้เวลาในการรักษาฟื้นฟูผิวให้ตื้น เต็มผิวหนังโดยใช้ระยะเวลานาน ซึ่งแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผิวจะกลับมาเรียบเนียนดังเช่นเดิม คนที่มีปัญหาหลุมสิวลักษณะนี้อาจจะต้องใช้การแต่งหน้า รองพื้น หรือเมคอัพเข้าช่วยเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนยิ่งขึ้น
ความรุนแรงของหลุมสิวรองลงมาจากหลุมสิวแบบ Ice pick scar คือ Box scar หรือหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นบ่อ หลุมสิวลักษณะนี้จะมีขอบกว้าง และชัดเจนกว่าหลุมสิวแบบ Ice pick scar แต่จะมีความตื้นกว่า และปัญหาหลุมสิวลักษณะนี้จะรักษาง่ายกว่า เนื่องจากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนของชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้ลึกลงไปในระดับของรูขุมขนแต่อย่างใด
ส่วนปัญหาที่เกิดจากสิวโดยทั่วไปที่สาว ๆ มักจะเจอกันเป็นประจำเมื่อสิวหายก็คือปัญหาหลุมสิวตื้น (Rolling Scar) คือหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นแอ่งเว้าลงไปเพียงเล็กน้อย สิ่งสาเหตุเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะสาว ๆ ชอบไปบีบ แคะ หรือแกะสิว แต่ก็เป็นปัญหาผิวที่สามารถรักษาฟื้นฟูให้เรียบเนียนได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับปัญหารอยดำซึ่งเป็นปัญหาผิวที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อสิวหาย ซึ่งการไปบีบ หรือแกะสิวก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น
โชคดีนะที่มีวิธีลดรอยหลุมสิว
เมื่อทราบถึงปัญหาผิวที่เกิดจากสิวไม่ว่าจะเป็นร่องรอยของหลุมสิว และรอยดำกันแล้ว เรามาทราบวิธีการกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อรักษาและฟื้นฟูผิวหน้าเพื่อลดร่องรอยดังกล่าวกันบ้าง การกระตุ้นคอลลาเจนนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุด ก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์เพื่อให้กระบวนภายในร่างกายทำงานได้เป็นไปตามปกติช่วยให้มีการสร้างคอลลาเจนออกมาเพื่อซ่อมแซมผิวหนังส่วนที่สึกหรอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหลุมสิวและริ้วรอยได้อย่างเพียงพอ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเป็นการกระตุ้นกลไกการผลิตคอลลาเจนในร่างกายให้เป็นไปตามปกติ
นอกจากการกระตุ้นคอลลาเจนด้วยปัจจัยภายในซึ่งก็คือการดูแลสุขภาพร่างกายแล้ว การใช้ตัวช่วยต่าง ๆ เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูปัญหารอยสิวก็สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่
การทาครีมต่าง ๆ ได้แก่
- การทากรดวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารที่อยู่ในครีมบำรุงผิวมากมายหลายประเภท ที่สาว ๆ สามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป รวมทั้งในเวชสำอางต่าง ๆ โดยอาจจะเลือกใช้การทา Retin A ซึ่งเป็นกรดวิตามินเอที่สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้เซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี
- การทาวิตามินอี, AHA หรือ BHA ซึ่งเป็นสารสกัดที่อยู่ในครีมลบรอยแผลเป็นมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ก็สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูหลุมสิว รอยสิว และจุดด่างดำที่เกิดจากสิวได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร อาจจะเป็นเดือนหรือเป็นปี กว่าจะเห็นผล
การรับประทานวิตามินหรือยาเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้แก่
การรับประทานสารสกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอ หรือ ที่เรียกว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่าเรตินอยด์ซึ่งเป็นสารสกัดที่อยู่ในวิตามินบำรุงผิวต่าง ๆ โดยสาว ๆ สามารถเลือกหรือสังเกตวิตามินที่มีส่วนผสมของสารสกัดประเภทนี้ได้จากข้างกล่องในชื่อของ Acnotin, Isotretinoin หรือ Roaccutance การรับประทานสารสกัดเหล่านี้ จะสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยเติมเต็มรอยหลุมสิว รวมถึงยังช่วยควบคุมความมันบนผิวหน้าซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย
เลเซอร์กระตุ้นคอลลาเจน
เป็นวิธีการช่วยกระตุ้นคอลลาเจนเพื่อเติมเต็มหลุมสิว และลดรอยที่เกิดจากหลุมสิวที่สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ย่อมมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เนื่องจากเลเซอร์ชนิดนี้สามารถทะลุเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ถึงผิวหนังแท้ ทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ตั้งแต่เรื่องของรอยดำ ไปจนถึงหลุมสิวที่มีลักษณะเป็นร่องลึก โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังชั้นบนแต่อย่างใด และไม่เพียงแต่เป็นการรักษาหลุมสิวเท่านั้น หากสาว ๆ เลือกวิธีการทำเลเซอร์ยังเป็นการช่วยกำจัดขนถาวร ช่วยให้รอยดำจางลง รอยสิวดูตื้น และผิวพรรณดูเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอย่างชัดเจน
IPL กระตุ้นคอลลาเจน


จะว่าไปแล้ววิธีนี้คล้ายกับการใช้เลเซอร์ แต่ต้องบอกสาวๆ ก่อนว่า IPL ไม่ใช่เลเซอร์ (IPL เทคโนโลยีฟื้นฟูสภาพผิวให้ขาวเนียนใส) จึงทำให้มีข้อจำกัดด้านการรักษาอยู่บ้าง โดย IPL นั้นสามารถช่วยลดเลือนรอยหลุมสิวประเภท Rolling Scar ได้ดีที่สุด และต้องใช้เวลารักษานานขึ้นหากเป็น Box Scar และยิ่งถ้าหากเป็น Ice Pick Scar นั้นจะไม่เห็นผลการรักษาเลย ดังนั้น สาวๆ ที่ทราบปัญหาสภาพผิวของตัวเองแล้วว่าเป็น Rolling Scar การเลือกใช้ IPL รักษาก็ช่วยประหยัดเงินได้อีกมาก
จากข้อมูลที่เรานำมาฝากกันในวันนี้สาว ๆ คงทราบกันแล้วว่าปัญหาและประเภทของหลุมสิวหลัก ๆ นั้นสามารถแบ่งได้ตามความลึกของหลุมสิว ซึ่งหากหลุมสิวมีความลึกมากก็ย่อมต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาเพื่อฟื้นฟูและเติมเต็มเป็นระยะเวลานาน โดยการหลีกเลี่ยงปัญหาของการเกิดหลุมสิวเพื่อให้มีความลึกและความรุนแรงที่ง่ายที่สุดคือหลีกเลี่ยงการบีบและแกะสิวซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดหลุมสิวลึก และรอยดำชัดเจนขึ้น
หากสาว ๆ คนไหนที่ต้องเจอกับปัญหาหลุมสิวและรอยสิวก็อย่าเพิ่งเสียความมั่นใจและกังวลใจไปจนเกินเหตุเนื่องจากปัญหาเหล่านี้สามารถรักษาและฟื้นฟูได้ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งสามารถทำได้มากมายหลากหลายวิธีการตั้งแต่การดูแลสุขภาพร่างกายเพื่อกระตุ้นให้กลไกการทำงานสร้างคอลลาเจนออกมาเติมเต็มผิวได้อย่างเพียงพอ หรืออาจจะใช้ตัวช่วยโดยการทาเรตินเอ, กรดวิตามินเอ, ทาวิตามินอี, AHA หรือ BHA ร่วมกับการรับประทานวิตามินที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากอนุพันธ์ของวิตามินเอเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนก็จะช่วยให้หลุมสิว และรอยสิวตื้นและดูจางลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
หากสาว ๆ คนไหนที่ใจร้อนก็อาจจะเลือกใช้การทำเลเซอร์เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจนไปถึงชั้นผิวหนังแท้ เพื่อให้หลุมสิวฟื้นฟูเรียบเนียนขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นผลชัดเจน โดยจะต้องเป็นการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 ครั้ง จึงจะเห็นผล ใครสะดวกวิธีไหนก็ลองนำไปใช้กันดู แต่ละวิธีที่เรานำมาฝากกันสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากสิวและหลุมสิวได้ทั้งสิ้น ต่างกันก็ตรงระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาเท่านั้นเอง