ปัญหาสิวว่าหนักใจ รักษาให้สิวหายว่ายากแล้ว แต่แก้มใสขอบอกเลยว่าการรักษารอยสิวที่เกิดขึ้นจากการบีบ การกดและการเค้นหัวสิวให้หลุดออกมานั้นยากยิ่งกว่าเท่าเลยค่ะ ยิ่งใครที่เป็นสิวเรื้อรังยังรักษาไม่หายขาด รอยสิวเก่ายังไม่ทันจางรอยสิวใหม่ก็มาอีกแล้ว แบบนี้น่ากลุ้มใจมาก ๆ แก้มใสจึงมีสาเหตุที่ทำให้รอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิวหายช้ามาฝาก รู้สาเหตุแล้วจะได้หาวิธีป้องกันและรักษากันต่อไปนะคะ

คุณจะได้เรียนรู้อะไร – อ่านบทความนี้จบ คุณสามารถดูแลผิวหน้าให้ห่างไกลรอยสิวได้เลย
สาเหตุของรอยดำ รอยแดงจากสิว
1. เป็นสิวเรื้อรัง ซ้ำซาก – ก็อย่างที่บอกไปรอยเก่ายังไม่ทันหายรอยใหม่มาอีกแล้ว ปัญหารอยดำหลักๆ แล้วเกิดจากการเป็นสิวอักเสบ ไม่ว่าจะบีบหรือไม่บีบก็ตาม ถ้าได้เป็นสิวแล้วล่ะก็รอยดำตามมาแน่นอน และด้วยความซ้ำซากจำเจนี้เองจึงไม่น่าแปลกใจ ว่าทำไมรอยสิวบนหน้าถึงไม่ยอมหายสักที ดังนั้นถ้าอยากให้รอยแดง-รอยดำหายเร็วๆ ต้องหยุดการเกิดสิวให้ได้ก่อนค่ะ
2. การบีบสิว – สาเหตุข้อนี้ทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ว่าถ้าบีบสิวเมื่อไร รอยแดงจะเกิดขึ้นมาก่อน และอีกไม่กี่วันรอยดำก็จะตามมา เป็นธรรมชาติของการเกิดสิวและรอยสิว ยิ่งคนที่ชอบเป็นสิวที่เดิมซ้ำๆ และชอบบีบสิว รอยสิวจะหายช้ากว่าปกติมาก ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นรอยสิว
ควรหลีกเลี่ยงการบีบสิวให้มากที่สุดค่ะ แก้มใสแนะนำถ้าไม่
ไหวจริง ๆ ไปให้คลินิคที่มีเครื่องมือและความชำนาญกด
ออกจะดีกว่าค่ะ
3. แสงแดด – แสงแดดทำให้เม็ดสีผิวของเราเข้มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่เกิดแผล ดังนั้นถ้าเราโดนแดดบ่อยและเป็นเวลานานรอยสิวจะเข้มขึ้นและหายช้า ยิ่งถ้าทายารักษาสิวบางตัวร่วมด้วย เช่น benzac ,differin ,retin-a หน้าจะไวต่อแสงมากขึ้น ถ้าไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน รอยดำจากสิวจะยิ่งหายช้ามาก
4. อายุ – อายุเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รอยแดง-รอยดำจากสิวหายช้า คนที่อายุมากรอยสิวจะหายช้ากว่าคนอายุน้อย เป็นเรื่องที่ต้องทำใจจริงๆ ค่ะ เพราะจริงๆ แล้วรอยสิวสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรักษา เพียงแต่ต้องใช้เวลานานซึ่งอาจไม่ทันใจใครหลายคน ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องสรรหาครีมลดรอยดำมาใช้และทำเลเซอร์ลดรอยสิวเพิ่มเติมนั่นเองค่ะ
วิธีดูแลผิวหน้าหลังกดหรือบีบสิว
1. ประคบน้ำแข็งลดอาการบวม – ในกรณีที่เพิ่งกดสิวมาใหม่ อาจเกิดอาการบวม แดง บริเวณสิวที่ถูกกดได้ ถ้ารู้สึกว่ามันบวมมากเกินไปก็ให้เอาน้ำแข็งมาประคบเบา ๆ ที่หน้าเพื่อลดอาการบวมที่หน้าได้ค่ะ นอกจากจะลดอาการบวมแล้วยังช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียนกระชับได้ด้วยนะคะ
2. ล้างหน้าอย่างเบามือ – ปกติคนเป็นสิวไม่ควรล้างหน้าแรง ๆ อยู่แล้ว เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้สิวอักเสบได้ง่าย หลังจากกดสิวก็เช่นกัน พยายามล้างหน้าให้เบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช็ดหน้าก็ให้เช็ดเบา ๆ แผลจากการกดสิวจะได้หายเร็ว ๆ แถมยังช่วยป้องกันการเกิดสิวซ้ำซ้อนที่ชอบขึ้นมาตรงที่เดิมได้อีกด้วย
3. ทาครีมลดรอยแดงและป้องกันรอยดำจากสิว – หลังจากที่หน้าหายบวมแดงและแผลจากการกดสิวเริ่มแห้งแล้ว เราก็สามารถหาครีมลดรอยดำ รอยแดงจากสิวมาทา เพื่อช่วยให้รอยจากการกดสิวหายเร็วขึ้นกว่าเดิมและยังป้องกันการเกิดรอยดำจากสิวที่จะรักษาตามหลังได้ยากอีกด้วยค่ะ
คนเป็นสิวไม่ควรล้างหน้าแรง ๆ หรือใช้โฟมล้างหน้าที่มีสาร
ขัดผิว เพราะยิ่งเป็นการกระตุ้นให้เกิดสิว
วิธีลดรอยแดง รอยดำ จากสิว
1. ครีมลดรอยแผลเป็นจากสิว – จัดเป็นวิธีเบสิกที่ใช้แก้ปัญหาจุดด่างดำจากสิวได้ดีและเป็นวิธีที่คนเป็นสิวนิยมใช้มากที่สุดเพราะสะดวกหาซื้อได้ตามร้านขายยา ห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งเซเว่นก็ยังมีขาย นอกจากนี้ครีมลดรอยสิวเหล่านี้ยังมีหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน จึงไม่น่าแปลกใจที่คนส่วนใหญ่นิยมรักษารอยดำด้วยวิธีนี้ ส่วนผสมที่เป็นที่นิยมบรรจุเข้าไปในครีมเหล่านี้ เช่น Allium cepa, Vitamin C, Arbutin, Azelaic acid, Kojic acid ซึ่งใครที่กำลังหาซื้อครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้ แก้มใสจัดรีวิวตัวเด็ดๆ ที่สาวก pantip ฟันธงมาไว้ให้ด้วยนะคะ
2. ยารักษาสิวบางตัวช่วยได้ – สำหรับคนเป็นสิวที่ทายารักษาสิวอยู่แล้ว ยาทาสิวบางตัวสามารถช่วยลดปัญหาจุดด่างดำจากสิวได้ด้วย เช่น Retin-A, Differin, Isotrexin, Epiduo, Skinoren cream ยาเหล่านี้ช่วยในการผลัดเซลผิวทำให้รอยดำจางลงเร็วขึ้น เป็นวิธีที่เหมาะกับคนเป็นสิวเพราะยังไงก็ต้องทาอยู่แล้ว แต่ต้องระวังเรื่องผิวหน้าไวต่อแสง และปัญหาผิวแห้งกร้านที่ตามมา ดังนั้นใครที่จะใช้วิธีนี้ต้องหามอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดทาร่วมด้วยจะดีที่สุดค่ะ
3. ทำทรีทเม้นท์ผิวหน้า AHA – การทำ AHA เป็นอีกวิธีที่นิยมใช้ลดรอยดำจากสิวเช่นกัน ซึ่งเป็นบริการที่คลินิกเสริมความงามทุกที่ต้องมี การทำ AHA ก็คือการใช้กรดผลไม้ทาลงบนหน้าของเราเพื่อช่วยให้ผิวผลัดตัวเร็วขึ้น มีส่วนช่วยให้เกิดการสร้างผิวใหม่ขึ้นมา เป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปในตัวด้วย ข้อดีของการทำ AHA คือ ทำง่ายที่ไหนก็มี ราคาไม่แพงมากทำต่อครั้งแค่หลักร้อย แต่ข้อเสียคือ AHA มันก่อให้เกิดการระคายเคืองง่าย พูดง่ายๆ คือถ้าใครผิวแพ้ง่ายอาจแพ้ AHA แล้วทำให้สิวเห่อได้ คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายแก้มใสไม่แนะนำวิธีนี้นะคะ
4. การทำ IPL – การทำ IPL คือการฉายแสงลงบนหน้าของเราซึ่งจะคล้ายกับการทำเลเซอร์ ตอนทำก็จะมีเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายปืนยิงลำแสงมาที่หน้าของเรา ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำจากสิวจางลงได้อย่างรวดเร็ว ส่วนข้อดีของการทำ IPL คือ ไม่เจ็บ ไม่มีสะเก็ดแผล ไม่มีผลข้างเคียงมากอย่างมากก็รู้สึกแสบหน้าหลังทำนิดหน่อย ประมาณ 2-3 วันก็หาย แถมหลังทำหน้ายังสว่างใสขึ้นอีกด้วยนะคะ ใครใจร้อนอยากรอยสิวจางไวแก้มใสแนะนำวิธีนี้เลยค่ะ
การใช้ผลิตภัณฑ์รักษารอยสิว ต้องระวังเรื่องผิวหน้าไวต่อ
แสงเพราะผลจากการผลัดเซลล์ผิว และปัญหาผิวแห้ง
กร้าน ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งปัญหาฝ้า กระ
รีวิวครีมลดรอยแดง รอยดำจากสิว

รูป: http://www.likevitamin.net/product/1574/
1. Mederma Intense Gel – จัดเป็นครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวชื่อดังที่หลายคนกล่าวถึงเพราะนำเข้าจากประเทศเยอรมันและด้วยส่วนประกอบสำคัญอย่าง Allium cepa สารสกัดสูตรเฉพาะลิขสิทธิ์ของบริษัทเมิร์ช ประเทศเยอรมัน ที่สกัดจนได้ Cepalin( TM ) สูตรที่ดีที่สุด แบรนด์เคลมมาแบบนี้ใครบ้างจะไม่อยากลอง!
“เรื่องรอยแดงรอยดำจากสิวแนะนำ Mederma รีบทาหลังแผลเป็นใหม่ๆ ช่วยได้มาก 2 อาทิตย์ รอยสิวดีขึ้นเลยนะ” – คุณ สมาชิกหมายเลข 3095127 จากเว็บ Pantip
“รอยสิว รอยแดงจากแผลใหม่ๆ จางลงเร็วนะ แต่ถ้ารอยดำกับรอยสิวเก่าอาจต้องประมาณ 2สัปดาห์ สำหรับเราถือว่าโอเคมากนะ”- คุณ BrownSugar จากเว็บ Sistacafe

รูป: https://www.amazon.com/Hiruscar-Postacne-Acne-Scar-Dark/dp/B00PF378AC
“เราใช้ hirucar หลอดฟ้าขาว ใช้เดือนกว่าๆเพื่อนทักมาว่าหน้าใสขึ้น คือพอใจมากกกเคยใช้ตอนพึ่งบีบสิวใหม่ คือตื่นมาสิวแห้งเลย พอใจอย่างแรง” – คุณ สมาชิกหมายเลข 3235103 จากเว็บ Pantip
“ใช้ดีกว่าหลายๆยี่ห้อที่ราคาแพงกว่านี้นะ เรามีรอยแดงจากการแกะสิว ถือว่าลดรอยแดงได้ไวมาก แต่ไวก็ยังใช้หลายเดือนเพราะรอยแดงมันหายยากกว่ารอยดำ”- คุณ chei จากเว็บ Vanilla

รูป: http://scagel.net/scagelprod.html
3. Scagel – จัดเป็นครีมลดรอยแผลเป็นจากสิวยอดฮิตอีกตัว ด้วยราคามิตรภาพ หาซื้อง่ายและการใช้สารสกัดจากธรรมชาติมาเป็นตัวชูโรง ได้แก่ Allium Cepa 12% และสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากว่านหางจระเข้ , สารสกัดจากต้นปอสา , ใบบัวบก , มะขาม และมีส่วนผสมของวิตามินอีอีกด้วย เด็ดแบบนี้แล้วสาวๆ จะพลาดได้ยังไง!
“Scagel เลยค่ะ ช่วยเรื่องรอยสิวได้ดีมาก เรามีรอยสิวอยู่บนหน้าหลายเดือนมาก ใช้ตัวนี้แปบเดียวจางลงแบบรู้สึกได้เลยค่ะ” – คุณ สมาชิกหมายเลข 807666 จากเว็บ Pantip
“สกาเจลดีมาก ๆ ค่ะ รอยแดง รอยแผลเป็น อีสุกอีใส ที่หน้าของเรา จางเร็วดีน่ะ ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนหายเกลี้ยงเลยค่ะ เราทาสกาเจลอย่างเดียว ทาวันละ 2-3ครั้ง ตอนนี้ดีใจที่สุดเลยล่ะ”- คุณ Anonymous จากเว็บ Jeban
แก้มใสแนะนำบทความน่าอ่าน
- รู้หรือไม่! iPL ใช้ป้องกันสิวอักเสบ และลดรอยสิวได้
- สามีตะลึง – 7 เทคนิคพิชิตหน้าสิวให้เป็นหน้าสวย
- รีวิวครีมรักษาสิว – เปลี่ยนเภสัชหน้าสิว เป็นหน้าสวย

รูป: https://portal.weloveshopping.com/product/L91357895
“เป็นครีมลดรอยแผลเป็นที่คุ้มค่าน่าลองตัวหนึ่งเลยนะ ดีงามทั้งกลิ่นและผลในการลดเลือนรอยแผลเป็นจากสิว และที่สำคัญส่วนผสมหลักๆ เป็นสมุนไพรไทยที่มีงานวิจัยรับรองด้วย แอบเซอร์ไพรซ์กับผลที่ได้นะเนี่ย ซื้อต่อยาวไปค่ะ” – คุณ BrownSugar จากเว็บ Sistacafe
“เริ่มใช้ตั้งแต่แผลสิวเริ่มตกสะเก็ดจนสะเก็ดหลุด ก็รู้สึกว่ารอยมันจางลงเยอะมากแตกต่างจากก่อนหน้านี้ค่ะเพราะก่อนหน้านี้เราจะเป็นรอยดำจากการเป็นสิวนานประมาณเกือบนึงเดือนเลย ถือว่าโอเคมากๆ”- คุณThiyaphan_Em Blogger
ประเด็นน่าสนใจ แก้มใสอยากบอก
เห็นมั้ยล่ะคะ ว่าการใจร้อนอยากให้สิวหายไว ๆ แล้วไปกด แกะ บีบสิวนั้น ผลที่ตามมาก็คือรอยแผลเป็นที่รักษายาก ซึ่งวิธีการรักษาที่ดีที่สุดคือการปล่อยให้ร่างกายเยียวยาซ่อมแซมรอยแผลป็นจากสิวตามธรรมชาติ แต่อาจกินเวลานานถึง 3-6 เดือนเลยทีเดียว ยิ่งหากสาว ๆ อยู่ในวัยที่อายุ 30 ปีขึ้นไปแล้ว อาจต้องใช้เวลาที่นานขึ้นไปอีก
การใช้ตัวช่วยในการรักษารอยแผลเป็นจากสิวแบบต่าง ๆ ทั้ง ครีมลดรอยแผลเป็น การใช้ AHA การทำ IPL ล้วนเป็นวิธีลัดที่จะช่วยให้สาว ๆ กลับมามีใบหน้าที่สวยเด้ง เนียนใสกันได้ในเวลาที่สั้นขึ้น แต่การจะเลือกวิธีไหนนั้น แก้มใสขอให้พิจารณาตามสภาพผิว ระยะเวลาในการรักษาและงบประมาณในกระเป๋าแล้วกันนะคะ อดทน ๆ ค่อย ๆ รักษากันไปและอย่าไปแกะเกาสิวเพิ่มล่ะขอให้ผิวสวยหน้าใสกันไว ๆ นะคะสาว ๆ

รู้หรือไม่! IPL ลดรอยดำ รอยแดงจากสิวได้อย่างปลอดภัย
สนใจดูเครื่อง envi IPL คลิกเลย ซื้อผ่าน Line@envithailand รับส่วนลดพิเศษทันที